วันจันทร์ที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

ภาวะโลกร้อนมีผลต่อฤดูกาลบนโลก


ภาวะโลกร้อนมีผลต่อฤดูกาลบนโลก
  

                  ภาวะโลกร้อน คือ ภาวะที่อุณหภูมิโดยเฉลี่ยของโลกสูงขึ้น ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้ภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง ภาวะโลกร้อนอาจจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงของปริมาณฝน ระดับน้ำทะเล และมีผลต่อฤดูกาลบนโลกทำให้เกิดผลกระทบอย่างกว้างขวางต่อพืช สัตว์ และมนุษย์ สภาวะโลกร้อนก็คือ เป็นปรากฏการณ์ที่เกิดจากสภาวะเรือน กระจก (Green house effect)  ทำให้อุณหภูมิเฉลี่ยของโลกเพิ่มสูงขึ้น  และส่งผลกระทบต่อสิ่งมีชีวิตบนโลกอย่างรุนแรง  สภาวะดังกล่าว เรียกว่าการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ (Climate change)  โดยปกติแล้ว โลกจะมีชั้นบาง ๆ ของก๊าซกลุ่มหนึ่งเรียกว่า "ก๊าซเรือนกระจก" (Greenhouse gas) ที่ทำหน้าที่ดักและสะท้อนความร้อนที่โลกแผ่กลับออกไปในอวกาศให้กลับเข้ามาในโลกอีก  ซึ่งก๊าซเรือนกระจกมีสัดส่วนน้อยกว่า 0.1% ของปริมาตรของอากาศตามธรรมชาติ  ช่วยทำให้โลกมีอุณหภูมิที่เหมาะสมที่สิ่งมีชีวิตจะอาศัยอยู่ได้ หากไม่มีก๊าซกลุ่มนี้ โลกจะไม่สามารถเก็บพลังงานไว้ได้ และจะมีอุณหภูมิแปรปรวนในแต่ละวัน  ก๊าซกลุ่มนี้จึงทำหน้าที่เสมือนผ้าห่มบาง ๆ ที่ห่มคลุมโลกไว้ให้อบอุ่น  แต่ในช่วงระยะเวลาหลายสิบปีที่ผ่านมา โลกได้มีการสะสมก๊าซเรือนกระจกในชั้นบรรยากาศเพิ่มมากขึ้น ก๊าซเรือนกระจกที่ส่งผลต่อโลกร้อนที่สำคัญ 4 ชนิด ได้แก่  ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ( CO2)  ก๊าซมีเทน ( CH4) ก๊าซไนตรัสออกไซด์ ( N2O)  และก๊าซที่มีส่วนประกอบของสาร  ( CFCS)  เนื่องจากการเผาไหม้เชื้อเพลิงต่าง ๆ ที่ใช้ในกิจกรรมประจำวันของมนุษย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเผาไหม้พลังงานเชื้อเพลิงที่ขุดขึ้นมาจากใต้พิภพ  ซึ่งการเพิ่มขึ้นของก๊าซเรือนกระจกทำให้โลกไม่สามารถแผ่ความร้อนออกไปได้อย่างที่เคย ส่งผลให้อุณหภูมิของโลกเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง เสมือนกับว่าโลกมีผ้าห่มที่หนาขึ้นนั่นเองแม้ว่าโดยเฉลี่ยแล้วอุณหภูมิของโลกจะเพิ่มขึ้นไม่มากนัก แต่ผลกระทบที่เกิดขึ้นจะส่งผลต่อเป็นทอด ๆ และจะมีผลกระทบกับโลกในที่สุด   กรณีภาวะโลกร้อนจะ แตกต่างกันในแต่ละประเทศแต่ละส่วนของโลก ซึ่งพอจะสรุป ดังนี้แถบขั้วโลกจะได้รับผลกระทบมากสุดและก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงมากมายโดยเฉพาะอย่างยิ่งการละลายของภูเขาน้ำแข็ง ทั้งที่เป็นธารน้ำแข็ง (glaciers) แหล่งน้ำแข็งบริเวณขั้วโลก และในกรีนแลนด์ซึ่งจัดว่าเป็นแหล่งน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุดในโลก  น้ำแข็งที่ละลายนี้จะไปเพิ่มปริมาณน้ำในมหาสมุทรทวีปยุโรป โดยเฉพาะยุโรปตอนใต้ ในหลายพื้นที่ๆจะเกิดการลาดเอียง
และจะประสบกับสภาวะแห้งแล้งอย่างไม่เคยมีมาก่อนในทวีปเอเชีย อุณหภูมิจะสูงขึ้น และจะมีผลต่อ ความกดอากาศของภูมิภาคนี้ ทำให้ในบาง พื้นที่ที่เคยแห้งแล้งก็จะเกิดฝนตก บางพื้นที่ที่เคยฝนตกก็เกิดภาวะแห้งแล้ง แหล่งน้ำ/แม่น้ำ แห้งผาก และเปลี่ยนทิศทาง เกิดฤดูกาลที่ผิดปกติ และความแห้งแล้ง จะทำให้เกิดไฟป่าที่รุนแรง ผนวกกับการที่ป่าถูกบุกรุกทำลาย เพื่อแสวงหาที่ทำกินเพิ่มขึ้น ทำให้ป่าไม้ขาดความอุดมสมบูรณ์ จากที่เคยเป็นแหล่งดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และเพิ่มออกซิเจนหรือเป็นปอดของโลกได้ลดจำนวนลงอย่างรวดเร็ว เนื่องจากอุณหภูมิของโลกที่สูงขึ้นจะสร้างสภาวะที่พอเหมาะพอควรให้เชื้อโรคเจริญเติบโตได้อย่างรวดเร็วเช่น โรคฉี่หนู โรคไข้เลือดออก และมาลาเรีย  การที่โลกร้อนขึ้นจะก่อให้เกิด สภาพแวดล้อมที่เหมาะสมแก่การฟักตัวของเชื้อโรคและศัตรูพืช ที่เป็นอาหารของมนุษย์บางชนิด โดยเฉพาะในแถบร้อนชื้นของโลก เชื้อโรคจะมีปริมาณเพิ่มขึ้นมากในอีก 20 ปีข้างหน้า และจะเกิดการระบาดของโรคอย่างรุนแรงทั้งโรคมาลาเรีย ไข้เลือดออก ไข้ส่า อหิวาตกโรค และโรคอาหารเป็นพิษ เป็นต้นสภาวะโลกร้อนส่งผลกระทบต่อประเทศไทยคือจากการศึกษาพบว่า มีอุณหภูมิสูงขึ้นประมาณ 1  องศาเซลเซียส ในช่วง 40 ปีที่ผ่านมา ซึ่งถ้าหากอุณหภูมิเพิ่มสูงขึ้น 2- 4  องศาเซลเซียส จะทำให้พายุไต้ฝุ่นเปลี่ยนทิศทาง เกิดความรุนแรง และมีจำนวนเพิ่มขึ้นร้อยละ 10-20 ในอนาคต นอกจากนี้ ฤดูร้อนจะขยายเวลายาวนานขึ้น ในขณะที่ฤดูหนาวจะสั้นลง
 

ภาวะโลกร้อนทำให้เกิดปรากฏการณ์ เอลนีโญ(El Nino) และ ลานีญา ( La Nino)

ภาวะโลกร้อนทำให้เกิดปรากฏการณ์ เอลนีโญ(El Nino) และ ลานีญา ( La Nino) 
ปรากฏการณ์ เอลนีโญ(El Nino)

ปรากฏการณ์ ลานีญา ( La Nino)

                 ภาวะโลกร้อนทำให้เกิดปรากฏการณ์เอลนิโญ และ ลานิญาทั้ง 2 คำ นี้เป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่เป็นปฏิสัมพันธ์ระหว่างการหมุนเวียน ของกระแสอากาศ และกระแสน้ำในมหาสมุทรทั้งบนผิวพื้นและใต้มหาสมุทร แต่เกิดจากภาวะโลกร้อน ทำให้เกิดความผกผันของกระแสอากาศโลกบริเวณเส้นศูนย์สูตร เหนือมหาสมุทรแปซิฟิกเกิด ภัยธรรมชาติที่รุนแรง สภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงฝนไม่ตกต้องตามฤดูกาลและพื้นที่เกิดความแห้งแล้ง น้ำท่วม พายุ คลื่นลม การเกษตรเสียหายเพาะปลูกไม่ได้ตามฤดู เกิดความอดอยากคลาดแคลนอาหารในหลายพื้นที่ในโลก  เอลนีโญ (EI nino) หรือชื่อทางการว่า เอ็นโซ่ (ENSO) มาจากคำว่า EI Nino-Southern oscillation เอ ลนิโญแปลว่าบุตรของพระเยซู เพราะปรากฏการณ์นี้มักจะเกิดในช่วงคริสต์มาส แต่สำหรับชาวเปรูจะหมายถึงกระแสน้ำอุ่นที่ไหลเลียบชายฝั่งลงไปทางใต้ ทำให้เกิดผลกระทบต่อระบบนิเวศวิทยาชายฝั่ง และมีฝนตกหนักทางเอกวาดอรใต้และเปรูเหนือ แต่โดยทั่วไปหมายถึง การอุ่นขึ้นอย่างผิดปกติของน้ำทะเลบริเวณตอนกลางและตะวันออกของมหาสมุทร แปซิฟิกเขตร้อน ซึ่งเกิดจากการอ่อนกำลังลงของลมสินค้า (Trade wind) เอลนีโญเป็นปรากฎการณ์ทางธรรมชาติที่เกิดขึ้นมานนับพันปี มาแล้วและในระยะหลังเกิดบ่อยครั้ง และมีความรุนแรงมากขึ้นลานีญา(LA Nina) แปลว่าลูกสาวเป็นปรากฏการณที่ตรงข้ามกับเอลนีโญนั่นคืออุณหภูมิผิวน้ำทะเล บริเวณตอนกลางและตะวันออกของแปซิฟิกเขตศูนย์สูตรมีอุณหภูมิต่ำกว่าปกติหรือ เย็นขึ้น เนื่องจากลมสินค้าตะวันออกเฉียงใต้มีกำลังแรงกว่าปกติ    ลม สินค้า คือลมที่พัดเข้าหาเส้นศูนย์สูตรของโลก พบได้บริเวณใกล้เส้นศูนย์สูตรทั่วโลก ลมสินค้าเป็นกระแสลมที่พัดจากเขตร้อนหรือเขตความกดอากาศสูงไปยังเขตความกด อากาศต่ำ ลมสินค้าจึงพัดอากาศบริเวณผิวน้ำทะเลที่อุ่นจากตะวันออกไปสะสมอยู่ทางตะวัน ตกมาก ทำให้อุณหภูมิผิวน้ำทะเลและระดับน้ำทะเลยิ่งสูงขึ้นทำให้ออสเตรเลีย อินโดนีเซีย และแอฟริกาใต้มีฝนตกหนักและเกิดน้ำท่วมขณะที่บริเวณแปซิฟิกตะวันออกเขตร้อนมีฝนน้อยและแห้งแล้ง ปรากฏการณ์ลานีญาเกิดขึ้นได้ทุก2-3ปีนานประมาณ9-12เดือน แต่บางครั้งอาจปรากฏอยู่ได้นานถึง 2 ปี  นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าความรุนแรงและความถึ่ในการเกิดปรากฏการณ์ทั้ง2อย่าง เกิดจากการที่น้ำทะเลมีอุณหภูมิสูงขึ้นเนื่องจากโลกร้อนขึ้นไอร้อนระเหยจาก ผิวโลกทำให้ความชื้นในอากาศเพิ่มขึ้นปรากฏการณ์เอลนีโญจึงเกิดได้เร็วขึ้น นักอุตุนิยมวิทยา เควิน เทรนเบิร์ธ จากศูนย์วิจัยบรรยากาศโลกเชื่อว่าพายุหมุนเขตร้อนเกิดขึ้นจากความแปรปรวนของ สภาพอากาศเนื่องจากเกิดปรากฏการณ์เอลนีโญ ดังนั้นปรากฏการณ์เอลนีโญและภาวะโลกร้อนมีความเกี่ยวเนื่องกัน    ซึ่งสอดรับกับ รศ.ธนวัฒน์  จารุพงษ์สกุล  ภาค วิชาธรณีวิทยา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า “บ้านเรามีแนวโน้มจะเกิดปริมาณฝนตกในฤดูสั้นลงหรือฤดูฝนสั้นลง ขณะที่ฤดูหนาวจะมีฝนตกเพิ่มขึ้น และจะเป็นฝนทิ้งช่วง ตกครั้งละมากๆ นอกจากนี้โอกาสที่พายุโซนร้อนและไต้ฝุ่นจะเปลี่ยนทิศพัดเข้าสู่ประเทศไทยทาง อ่าวไทยโดยตรงมีมากขึ้นโดยจะส่งผลให้เกิดอุทกภัยและโคลนถล่ม โดยเฉพาะบริเวณชายฝั่งตะวันออก ภาคใต้ฝั่งตะวันออกและกรุงเทพมหานคร ” ในรอบหลายๆปีที่ผ่านมาบางที่เกิดสภาวะแห้งแล้ง บางที่เกิดฝนตกหนักน้ำท่วมและน้ำป่าไหลหลาก เกิดโรคระบาด ทำให้ประเทศไทยได้รับความเสียหายทางเศรษฐกิจมากมาย

การลดอัตราการเกิดภาวะโลกร้อน

การลดอัตราการเกิดภาวะโลกร้อน

เราจะต้องพยายามลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจก  โดยการประหยัดพลังงานซึ่งเป็นแนวทางหนึ่งในการลดอัตราการเกิดสภาวะโลกร้อนไปในตัว ด้วยการปฏิบัติตัว ดังนี้
      1.ลดการใช้น้ำมัน โดยใช้รถยนต์เท่าที่จำเป็น และขับรถด้วยความเร็วไม่เกิน 90 กม./ชม. นั่งรถร่วมกันครั้งละ   หลายๆคนหากเดินทางไปในทางเดียวกันหรือที่หมายใกล้กัน( CAR POOL) และหมั่นตรวจเช็คลมยางอยู่เสมอ ที่สำคัญควรเลือกใช้เชื้อเพลิงที่สะอาด หากเป็นการเดินทางที่มีระยะทางไม่ไกลมากควรเลือกใช้วิธีการเดิน หรือใช้รถจักรยานแทนการใช้มอเตอร์ไซด์
  2. การเลือกบริโภคหรือเลือกใช้ของที่ปลูก/ผลิตในท้องถิ่น
  3.  เลือกใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ประหยัดไฟ ปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกครั้งที่ไม่ใช้งาน    
  4.  ใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย ควรเลือกบริโภคสินค้าที่มีกระบวนการผลิตที่เรียบง่าย เช่น เลือกบริโภคน้ำจากขวดแก้วเพราะสามารถนำมาล้างและบรรจุใหม่ได้ หรือเลือกที่จะบริโภคน้ำอัดลม เพราะน้ำอัดลมมีกระบวนการผลิตที่ซับซ้อนกว่าน้ำเปล่า หรือเลือกใช้สินค้าที่ผลิตด้วยมือ(Hand Make) แทนการใช้สินค้าที่ผลิตด้วยเครื่องจักร      
   5.  เรียนรู้วิธีจัดการกับขยะในครัวเรือน ด้วยการไม่เพิ่มขยะโดยไม่จำเป็น เช่น การใช้ถุงผ้าไปใส่ของเวลาไปจ่ายตลาด แทนการหิ้วถุงพลาสติก ลดปริมาณขยะโดยการคัดแยกขยะก่อนทิ้ง ขยะชิ้นใดสามารถ นำมาใช้ใหม่ได้ควรแยกออกไว้เพื่อนำกลับมาใช้ใหม่หรือขายให้กับพ่อค้า/แม่ค้าของเก่า ขยะที่เป็นขยะเปียก เช่น เศษผักหรือเศษอาหารควรหมักเป็นปุ๋ยน้ำชีวภาพเป็นการผลิตปุ๋ยใช้เอง สามารถลดค่าใช้จ่ายค่าปุ๋ยได้ไปในตัว และงดการเผาขยะเองทุกชนิด     
                      6. ช่วยกันรักษาต้นไม้ และป่าไม้ ควบคู่ไปกับการเพิ่มพื้นที่สีเขียวในพื้นที่ว่างเปล่าให้มากที่สุดเพื่อเป็นปอดสำหรับฟอกอากาศโดยพืชสีเขียวจะเปลี่ยนก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เป็นออกชิเจนจากกระบวนการสังเคราะห์แสงนั่นเอง เป็นการลดก๊าซเรือนกระจกไปในตัว .......... ปัญหาสภาวะโลกร้อน นับเป็นมหัตภัยที่จะก่อให้เกิดหายนะอย่างใหญ่หลวงต่อมนุษยชาติในอนาคตอันใกล้นี้ ที่เราทุกคนต้องใส่ใจ สิ่งที่เราทำได้คงไม่ใช่การหยุดหายนะที่จะเกิดขึ้น แต่น่าจะเป็นการบรรเทาความรุนแรงของหายนะนั้น หรือยืดระยะเวลาที่จะเกิดให้ยาวนานออกไปเพื่อที่จะสามารถเตรียมรับมือกับหายนะให้มีผลกระทบน้อยที่สุด ที่ไม่ใช่เฉพาะต่อมนุษย์เท่านั้น แต่หาก เพื่อทุกสรรพชีวิตที่อยู่บนโลกใบเดียวกันนี้  

การ์ตูนปังปอนด์ครอบครัวรักษ์โลก 
ตอนที่ 1

 

ตอนที่ 2


ตอนที่ 3

 
ตอนที่ 4

ตอนที่ 5

ตอนที่ 6
ตอนที่ 7

ตอนที่ 8

ตอนที่ 9

ตอนที่ 10